Sunday, July 07, 2024

COLLECTIONS OF MY FACEBOOK POSTS IN JUNE AND EARLY JULY

 นิทรรศการ LANTERN ART FESTIVAL 2024 AT SAMYAN MITRTOWN หรือที่เราแอบเรียกว่า "เทศกาลโคมไฟปลิดวิญญาณ" อยากให้มีคนเดินลอดโคมไฟเหล่านี้แล้วมี YOKAI แอบตามไปอยู่ด้วยที่บ้าน 55555

---
BOOK WISH LIST: FLASH FLAHERTY -- TALES FROM A FILM SEMINAR
---
รายงานผลประกอบการหนังมาเลเซียช่วงครึ่งปีแรกโดยคุณ Amir มีหนังน่าดูหลายเรื่องมาก โดยเฉพาะ ALL IN (2024, Matt Lai), SHERIFF (2024, Syafiq Yusof), JANNA ENDORO (2024, Sham Jr.) และ JIWA 8 BELAS (2024, S. Baldev Singh) อยากให้มีคนเอาหนังเหล่านี้มาเข้าโรงฉายในไทยบ้าง
---
ดีงามที่สุด อยากดู CONAN ภาคเก่า ๆ กับ SUMMER WARS (2009, Mamoru Hosoda) แต่เดี๋ยวต้องไปเช็คดูก่อนว่า เราเคยดูภาคไหนไปแล้วบ้าง ไม่งั้นเดี๋ยวเผลอดูซ้ำ 555
----
FORMULA 17 (2004, Chen Yin-jung, Taiwan) นี่ถือเป็นหนึ่งในหนังเกย์ต่างชาติที่เราชอบน้อยที่สุดในชีวิต เพราะเราดูแล้วไม่อินเลย 55555 แต่เราชอบ TIGERWOMEN GROW WINGS (2005, Monika Treut, Taiwan/Germany, documentary) ที่เป็นสารคดีสัมภาษณ์ Chen Yin-jung นะ

คือตอนที่เราดู FORMULA 17 เมื่อ 20 ปีก่อน เราเกลียดหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรง แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าหากมาเทียบกับหนังวายละครวายในช่วงนี้ เราอาจจะชอบ FORMULA 17 มากขึ้นก็ได้นะ คือเหมือนในยุคนั้น มันมีหนังเกย์เพียงแค่ไม่กี่เรื่องที่เราดูแล้ว "ไม่อินเลย" แบบนี้น่ะ แต่พอมาเป็นในยุคนี้แล้ว FORMULA 17 อาจจะไม่ได้ดูเลวร้ายมากเท่ากับในยุคก่อนแล้วก็ได้ 55555
---
ดีใจสุดขีด เพราะเราชอบ A  THOUSAND MONTHS (2003, Faouzi Bensaidi, Morocco) กับ VOLUBILIS (2017, Faouzi Bensaidi, Morocco) อย่างรุนแรงมาก ดีใจที่จะได้ดูหนังใหม่ของเขาในเทศกาล Signes de Nuit เดือนนี้
---
เพิ่งรู้ว่า CAMP DE THIAROYE (1988, Ousmane Sembene, Thierno Faty Sow, Senegal, 157min, A+30) เป็น semi-autobiography

แอบเดาว่า ช่วงที่เป็นการพูดคุยกันของทหารผิวดำในค่าย คง "ดัดแปลงมาจากชีวิตจริงของ Ousmane Sembene" ส่วนเรื่องการสังหารหมู่ ก็คงมาจาก "เรื่องจริง ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวผู้กำกับโดยตรง" รู้สึกว่าเป็นการผสมผสานเรื่องจริงของชีวิตตัวเองกับเรื่องจริงของชีวิตคนอื่น ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างดีงามสุด ๆ :-)
---
อะไรคือการเดินออกจากหอภาพยนตร์ ศาลายา ตอน 21.29 น.ท่ามกลางฝนตกพรำ ๆ ด้วยจิตใจที่เป็นกังวลว่าจะหารถได้ไหม แต่พอเท้าเดินออกจากหอภาพยนตร์ปุ๊บ ก็มีรถ taxi ว่างแล่นมาจอดปั๊บพอดี นึกว่าราชรถมาเกยของจริง
---
วันนี้ขึ้น taxi ที่ราชเทวีตอน 08.46 น. มาถึงหอภาพยนตร์ตอน 09.20 น. สรุปว่าใช้เวลาเดินทางแค่ 34 นาที นึกว่าเหินฟ้ามากับหนุ่ม ศรราม
---
ขึ้น taxi จากราชเทวีตอน 08.55 มาถึงหอภาพยนตร์ ศาลายาตอน 09.35น. ดีงามมาก ๆ ใช้เวลาแค่ 40 นาที โดยรวมเวลาที่คนขับรถ taxi  แวะฉี่ระหว่างทางด้วย 555
---
เพิ่งสังเกตว่า หนังจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เรื่อง OLYMPIC! THE FRENCH GAMES ที่จะฉายให้ดูฟรีที่ ALLIANCE ในวันศุกร์ที่ 5 ก.ค.
มี dress code สำหรับผู้ชมให้ใส่ "ชุดกีฬา" ด้วย

ดิฉันก็เลยอยากกระตุ้นให้ผู้ชมหนุ่ม ๆ ที่ไปดูหนังในงานนี้ ใส่ "ชุดว่ายน้ำ" ไปดูหนังกันค่ะ 55555
---
A SIMPLE STORY (1959, Marcel Hanoun, France, 68min,  A+30)

หนังเปิดฉายให้ดูฟรีจนถึงเที่ยงวันศุกร์ที่ 28 มิ.ย.
https://www.lecinemaclub.com/now-showing/une-simple-histoire/

กราบตีนที่สุด ดูแล้วก็ไม่แปลกใจว่าทำไม Jean-Luc Godard ถึงชื่นชอบ Marcel Hanoun อย่างรุนแรง

ถ้าเทียบกับหนังกลุ่ม "แม่ลูกเร่ร่อน" เราก็ชอบเรื่องนี้มากกว่า ALICE DOESN'T LIVE HERE ANYMORE (1974, Martin Scorsese) และ TUMBLEWEEDS (1999, Gavin O'Connor) นะ แต่ก็ชอบทั้งสองเรื่องนี้มาก ๆ นะ

แต่ชอบหนังเรื่องนี้เท่ากับ A SIMPLE EVENT (1973, Sohrab Shahid Saless, Iran) ในฐานะหนังที่มีชื่อเรื่องคล้าย ๆ กัน 555
---
ดีใจสุดขีดที่การดู BIRTH OF THE SEANEMA (2004, Sasithorn Ariyavicha) ในโรงภาพยนตร์ของเราเป็นรอบที่ 5  ตรงจุดที่เรานั่งเราไม่เจออุปสรรคเรื่อง "เสียงรบกวน" ใด ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่มีผู้ชมจำนวนมากในโรง ขอกราบขอบพระคุณผู้ชมบริเวณนั้นทุกท่านมากค่ะที่ไม่ทำเสียงรบกวน ก็เลยรู้สึกว่านี่เป็นบรรยากาศการชมภาพยนตร์ที่เราประทับใจที่สุดครั้งนึงในชีวิตนับตั้งแต่เราเริ่มมาดูหนังที่หอภาพยนตร์ในปี 2011 เป็นต้นมา หรือในรอบ 13 ปีครึ่ง

เพราะปีนี้เราผ่านศึก "เทศกาลภาพยนตร์อาเซียน" และ "เทศกาลภาพยนตร์อียู" มาแล้ว ที่มีทั้งคนคุยกันเองเสียงดัง, คนคุยโทรศัพท์, คนไม่ปิดสัญญาณมือถือ, คนแดกขนมเสียงดัง, etc. จนเรา trauma มาก ๆ และเราก็เคยเจอคนทำพฤติกรรมแบบนี้บ้างเป็นครั้งคราวที่หอภาพยนตร์ เราก็เลยหวาดผวามาก กลัวว่าจะมีคนทำแบบนี้ตอนฉาย BIRTH OF THE SEANEMA 55555

ก็เลยประทับใจการดู BIRTH OF THE SEANEMA วันนี้อย่างสุดขีดค่ะ ซึ่งก็เป็นเพราะผู้ชมด้วย

ส่วนการดู "ข่อยฮักเจ้าหลาย MY SCHOOL" (2024, Ken Khumkhok, A+10) ของเราในวันนี้ ก็ไม่มีใครทำเสียงรบกวนเช่นกันค่ะ เพราะมีเราเป็นผู้ชมคนเดียวในโรง
---
นึกถึงที่เพื่อนคนนึง (สมมุติว่าชื่อ A) เคยเล่าให้เราฟังเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ว่าตอนนั้น A กับเพื่อนกลุ่มนึง ซึ่งมี B และ C ที่เป็นแฟนกันอยู่ในกลุ่มด้วย เข้าไปดูหนังด้วยกันเรื่องนึง โดยที่ในช่วงก่อนจะเข้าไปดูหนังเรื่องนั้น B และ C ทะเลาะกันแบบจะฆ่ากันตาย แต่พอดูหนังเรื่องนั้นจบแล้ว B และ C ก็เลิกทะเลาะกันไปเลย ออกมาจากโรงหนังอย่างสงบ และปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด

หนังที่ B และ C เข้าไปดูด้วยกันในตอนนั้นก็คือ
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
ฺBREAKING THE WAVES (1996, Lars von Trier)
------
ถ้าใครรัก BIRTH OF THE SEANEMA (2004, Sasithorn Ariyavicha) เหมือนเรา และอยากดูหนังทำนองนี้อีก เราก็ขอแนะนำให้ดู ILE DE BEAUTE (1998, Dominique Gonzalez-Foerster, Ange Leccia, 70min) ไปพลาง ๆ ได้นะ หนังเรื่องนี้มีให้ดูฟรีใน vimeo (ลิงค์อยู่ใน comment) และเป็นหนังที่ประกอบไปด้วยภาพวิวทิวทัศน์เป็นส่วนใหญ่ โดยตอนแรกนั้น Leccia ได้ถ่ายวิดีโอภาพพวกนี้ไว้เป็นร้อย ๆ ชั่วโมงในปี 1985-1996 ก่อนที่จะมีการตัดต่อออกมาเป็นหนังที่มีความยาวแค่ 70 นาทีเรื่องนี้ เราได้ดูหนังเรื่องนี้ตอนมันมาฉายที่สมาคมฝรั่งเศส ถนนสาทรใต้ ในช่วงปลายปี 1999 ใน "เทศกาลหนังทดลองกรุงเทพครั้งที่ 2" แล้วก็รู้สึกว่าหนังมันงดงามมาก ๆ และเป็นหนึ่งในหนังที่เราอยากให้มีคนจัดฉายควบกับ BIRTH OF THE SEANEMA
--
มีคนเสิร์ชหาอยากดูหนังเรื่อง "รืหรกำ นีะ2"
---
เติมพลังหลังดู BIRTH OF THE SEANEMA (2004, Sasithorn Ariyavicha, fifth viewing) และ "ข่อยฮักเจ้าหลาย MY SCHOOL" (2024, Ken Khemkhok, A+10)
---
เพื่อนใน facebook บอกว่า หนึ่งในการแสดงที่น่าประทับใจที่สุดของ Donald Sutherland อยู่ใน BLOOD RELATIVES (1978, Claude Chabrol)  น่าดูเป็นที่สุด
---
FILM WISH LIST: PENANGKAL ILMU TELUH (ANTIDOTE FOR WITCHCRAFT) (1979, S.A. Karim, Indonesia) นำแสดงโดย "เด็บบี้ ซินเธีย เทวี"

เพิ่งรู้ว่า คำว่า "มูเตลู" มาจากหนังเรื่องนี้
---
CHANDU CHAMPION (2024, Kabir Khan, India, 142min,  A+30)

1.ปกติแล้ว "หนังชาตินิยมอินเดีย" โดยเฉพาะ "หนังชาตินิยมอินเดียที่ด่าปากีสถาน" เสี่ยงมาก ๆ ที่จะได้ F จากเรา แต่เรื่องนี้นี่ดูแล้วยอมจริง ๆ ดูแล้วร้องห่มร้องไห้อย่างรุนแรงในบางฉาก

2.แต่ก็นะ หนังเมนสตรีมอินเดียก็แบบนี้แหละ พอฉากนึงเราร้องไห้ ฉากต่อมาเราก็หัวเราะจนหยุดไม่ได้กับความพยายามจะบิ๊วอารมณ์ให้ซาบซึ้งของมัน 555

3.เดาว่าฉาก climax ฉากนึงของหนังอาจเป็นการ tributeให้ 1917 (2019, Sam Mendes) เพราะเป็น long take ที่หนักมาก

4.รู้สึกว่าชีวิตของพระเอกมันหนักหนาสาหัสสุดขีด อุปสรรคในชีวิตมันหนักมาก ๆ ๆ ๆ

แต่พอไปดูใน wikipedia ชีวประวัติของ Murlikant Petkar ซึ่งเป็น subject ตัวจริงของหนัง เราก็แอบสงสัยว่า ชีวิต subject ตัวจริงอาจจะหนักกว่าในหนังหลายเท่าก็ได้ เพราะในหนังเรื่องนี้เล่าแค่ว่า พระเอกต่อสู้ฝ่าฟันอย่างหนักในการเป็นนักกีฬามวยปล้ำ, ชกมวย และว่ายน้ำ

แต่ชีวิต Murlikant Petkar ตัวจริง เป็นนักกีฬาพุ่งแหลนกับปิงปองด้วย แต่หนังไม่เล่าเรื่องพวกนี้เลยแม้แต่นิดเดียว

เราก็เลยเดาว่า มีสิทธิ์ชีวิต Murlikant Petkar ตัวจริง มันคงหนักเกินไปมาก ๆ หนังก็เลยตัดเรื่องพุ่งแหลน, ปิงปอง, etc. ทิ้งไปหมด เพราะแค่ที่มันปรากฏในหนังเรื่องนี้ ชีวิตเขามันก็เข้มข้นล้นปรี่ทะลุจอมากพออยู่แล้ว หนังก็เลยเลือกตัดทอน "ความหนักหนาสาหัสของชีวิตจริง" ทิ้งไปบ้าง ไม่งั้นหนังมันคงยาว 6 ชั่วโมง 55555
---
Art works by Ioanna Sakellaraki from Greece

BALLISTICS, BARRELS (2022, Piyatat Hemmatat)

ชอบงานนี้ของ Patrik Budenz กับ Birte Zellentin อย่างสุด ๆ

Patrik Budenz กับ Birte Zellentin นำภาพผู้นำ 16  คนของประเทศ...มาซ้อนกัน ตอบกันได้ในทันทีเลยใช่ไหมคะ ว่านี่คือภาพผู้นำ 16  คนของประเทศใด 555555

เฉลยอยู่ใน comment ( Bhutan)

Alliance Francaise ประกาศตารางฉายของเดือนก.ค.แล้วนะ มีฉาย SMALL CHANGE (1975, Francois Truffaut) ด้วย

ในหนังเรื่อง WILL YOU LOOK AT ME (2022, Shuli Huang, China, A+30) แม่ของผู้กำกับ พูดกับตัวผู้กำกับในทำนองที่ว่า การที่เขาเป็นเกย์ เท่ากับว่า เขาเป็น MONSTER โดยเธอพูดว่า "Why did I give birth to a monster"

เราก็เลยรู้สึกว่า มันเชื่อมโยงกับ MONSTER (2023, Hirokazu Kore-eda, A+30) โดยไม่ได้ตั้งใจ

WILL YOU LOOK AT ME เป็นหนังที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดจนสุดจะบรรยาย ทรงพลังพอ ๆ กับ TORCH SONG TRILOGY (1988, Paul Bogart)
---
Chocolate อันเขียวเป็นรส "เมี่ยงคำ"  ส่วนอันแดงเป็นรส mixed berry

แดก PIZZA PEPPERONI เพื่อเป็นพลีแด่หนังเรื่อง THE GARFIELD MOVIE (2024, Mark Dindal, animation, A+10)
---
RIP ANOUK AIMEE (1932-2024)

เพิ่งรู้ว่าเธอเกิดปีเดียวกับปีที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในไทย

ชอบเธอมาก ๆ รู้สึกว่าเธอ "สวยสง่า" มาก ๆ

เราเคยดูหนังของเธอไปแค่ 8 เรื่อง แต่ดีใจที่ 7 เรื่องในจำนวนนี้เป็นการดูในโรงภาพยนตร์

อยากให้มีคนจัดงาน  retrospective ของเธอมาก ๆเพราะมีหนังอีกเป็นร้อยเรื่องของเธอที่เรายังไม่ได้ดู

หนังของ Anouk Aimee ที่เราเคยดู

1.THE CRIMSON CURTAIN (1952, Alexandre Astruc)

ดูที่สมาคมฝรั่งเศส

2.THE HOUSE OF LOVERS (POT BOUILLE) (1957, Julien Duvivier)

ดูที่สมาคมฝรั่งเศส

3.8 1/2 (1963, Federico Fellini)

ดูที่ SCALA

4.A MAN AND A WOMAN (1966, Claude Lelouch)

ดูที่สมาคมฝรั่งเศส

5.TRAGEDY OF A RIDICULOUS MAN (1981, Bernardo Bertolucci, Italy)

ดูที่ Paragon พี่วิคเตอร์เอาเข้ามาฉายใน WORLD FILM.FESTIVAL

6.A MAN AND A WOMAN, 20 YEARS LATER (1986, Claude Lelouch)

7.READY TO WEAR (1994, Robert Altman)

ดูที่ LIDO

8.HAPPILY EVER AFTER (2004, Yvan Attal)

ดูที่ Central World

อยากดูหนังอีกหลาย ๆ เรื่องที่ Anouk Aimee แสดงมาก ๆ โดยเฉพาะ SUCCESS IS THE BEST REVENGE (1984, Jerzy Skolimowski), LEAP INTO THE VOID (1980, Marco Bellocchio),  MODEL SHOP (1969, Jacques Demy), UN SOIR, UN TRAIN (1968, Andre Delvaux), LOLA (1961, Jacques Demy)
---
ช่วงนี้เอาเพลงเก่า ๆ ของ Zard กลับมาฟังอีกครั้ง แล้วก็เลยให้  google แปลชื่อเพลงเป็นภาษาไทย ชอบชื่อเพลงมาก ๆ

เราเคยตามฟังเพลงญี่ปุ่นช่วงต้นทศวรรษ 1990 ครับ ก็เลยทันช่วงที่ Zard เริ่มดัง ฟังแล้วคิดถึงอดีตเมื่อ 30 ปีก่อนมาก ๆ
---
รูปผู้นำประเทศของไทย 34 คน ที่ Patrik Budenz + Birte Zellentin นำมาซ้อนทับกัน ที่ชั้น 7 BACC

ดูผลงานของ Patrik Budenz and Birte Zellentin ในนิทรรศการ PHOTOGRAPHY NEVER LIES แล้วพิศวงมาก ๆ ว่า ทำไมรายชื่อผู้นำประเทศของ SAN MARINO  มันถึงเยอะแยะมากมายแซงหน้าประเทศอื่น ๆ ไปหลายเท่าขนาดนั้น เราก็เลยไปดูใน  WIKIPEDIA แล้วก็เลยเพิ่งรู้ว่า SAN MARINO เลือกตั้งผู้นำประเทศใหม่ 2 คนทุก ๆ 6 เดือน รุนแรงมาก ๆ

แต่เมื่อวานเราไม่มีเวลามากพอ เราก็เลยไม่ได้นับว่า รูปไหนในนิทรรศการคือรูปผู้นำประเทศของ SAN MARINO ที่ทางศิลปินนำมาซ้อนทับกัน
---
From the exhibition Y2K by Dr. Red Krissadank Intasorn at BACC
---
ใครที่ชื่นชอบ STRANGERS ON A TRAIN (1951, Alfred Hitchcock, A+30) ที่ลงโรงฉายที่ HOUSE SAMYAN  ในตอนนี้ เราขอแนะนำให้ดู THROW MOMMA FROM THE TRAIN (1987, Danny DeVito, A+30) ด้วยนะ เพราะ THROW MOMMA FROM THE TRAIN เป็นการเอา  STRANGERS ON A TRAIN มาดัดแปลงใหม่ได้อย่างดีงามที่สุด คือดีงามในระดับที่เราชอบหนังเรื่องนี้ในระดับที่มากกว่าหรือเท่ากับตัวต้นฉบับเสียอีก กราบตีน Danny DeVito อย่างมาก ๆ

ส่วนหนังของ Alfred Hitchcock ที่เราชอบมากที่สุด คือ THE LADY VANISHES (1938)
---
วันนี้เพื่อนผู้หญิงคนนึงที่มีนามแฝงว่า "บัวไหล" ส่งรูปนี้มาให้ดู เป็นบัตรเข้า DJ STATION สีลมซอยสอง ในปี 1996  เห็นแล้วน้ำตาแทบไหล คิดถึงอดีตมาก ๆ

ช่วงปี 1995-2000 เราไปเที่ยว DJ STATION บ่อยมาก บางครั้งก็พาเพื่อนผู้หญิงไปด้วย นึกไม่ถึงว่าเธอยังเก็บบัตรนี้ไว้

ไม่รู้ยุคนั้นทำได้ยังไง มีบางเดือนเราไป DJ STATION ถึง 13 คืนต่อเดือน มีความสุขที่สุด

แต่พอเราเริ่มอ้วนลงพุงในช่วงปลายปี 2000 เราก็เลยไม่ได้��ลับไปเที่ยวที่นั่นอีกเลย 555

---
From the exhibition DARK WAS THE NIGHT by Taiki Sakpisit

From the exhibition THE CREATIVE UNIVERSE จักรวาลนฤมิต by Surasit Mankong

From the exhibition SAEN SAEP by Prach Pimarnman

ช่วงอดีตหวามรอดอ

ไม่มีอะไรมาก แค่อยากบันทึกไว้ว่า ในปี 1988 เรากับเพื่อนเคยแอบชอบชายหนุ่มคนนึงที่เราเจอบ่อย ๆ ตอนไปเรียนรอดอ วันนี้เราก็เลยเอาชื่อเขาไป google ดู ก็เลยพบว่า ตอนนี้เขาเป็น "นาวาอากาศเอก" ไปแล้ว

และในช่วงต้นปี 1991 ตอนเราไปฝึกรอดอที่เขาชนไก่ เราก็ตกหลุมรักชายหนุ่มคนนึงที่เราเจอที่เขาชนไก่ เขาเรียนอยู่มหาลัยเดียวกับเรา แต่อยู่คนละคณะ (ยุคนั้นเป็นยุคของการสอบเทียบ นิสิตปีหนึ่งหลายคนในจุฬาคือคนที่สอบเทียบมาหลังจากจบม.5 นิสิตกลุ่มนี้ก็เลยต้องมาเรียนรอดอปีสามด้วยกัน การเรียนรอดอปี 3 ในตอนนั้นก็เลยเหมือนโอกาสในการได้เล็งหนุ่ม ๆ มหาลัยจากต่างคณะ นึกว่า HUNTING GROUND 55555) และถึงแม้เวลาผ่านมานาน 33 ปีแล้ว เราก็ยังคงจดจำเหตุการณ์เขาชนไก่ตอนนั้นได้ดีมาก ๆ

วันนี้เราก็เลยเอาชื่อเขาไป google ดู ก็เลยพบว่า เขาเป็น "พันตำรวจเอก" ไปแล้ว

เฮ้อ เวลาผ่านมานาน 30 กว่าปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ลืม วาบหวามใจมากค่ะ ถึงแม้กะเทยอย่างดิฉันจะทำได้แค่แอบหลงรักเขาข้างเดียวก็ตาม

ชีวิตเราก็เท่านี้จริง ๆ ค่ะ

อยากย้อนเวลากลับไปใช้ชีวิตในปี 1988 ใหม่อีกครั้ง เพราะตอนนั้นโรงเรียนของเราต้องไปเรียน "รอดอ" พร้อมกับหนุ่ม ๆ ม.4 ของโรงเรียนวชิราวุธ เป็นช่วงที่ดิฉันกับกลุ่มเพื่อนสนิทรู้สึกแฮปปี้กีสะเดิดมาก ๆ ค่ะ 55555

No comments: